hong kong


แวะไปทานติ่มซำที่ฮ่องกงมา
ฮ่องกง นับเป็นหนึ่งในสถานที่คุ้นเคย
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกตอน 5 ขวบก็ไปฮ่องกงนี่แหละ
ฮ่องกงจึงเป็นจุดหมายปลายทางต่างบ้านเมืองแห่งแรกที่ไป
จากนั้นฮ่องกงก็เป็นเสมือนบ้านญาติที่แวะไปกันเป็นประจำของครอบครัวในสมัยนั้น
กิจกรรมหลักของเหล่าเด็กๆอย่างเรา คือ ร้านขายของเล่น (สมัยก่อนยังไม่มี toy r us)
ซึ่งเสมือนดินแดนสวรรค์ มีสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ตื่นตาตื่นใจไปทุกอณูของร้าน
คลุกอยู่ได้ทั้งวัน (นึกอีกทีตอนนี้ พวกผู้ใหญ่คงเซ็งเบื่อระเบิด)
กิจกรรมรองก็แน่นอนว่าเป็นการกิน!
แต่ด้วยความที่ยังเด็กจึงไม่ค่อยรู้ว่าร้านไหนเป็นร้านไหนอยู่ตรงไหนที่ไหน
จำได้แต่ว่าอร่อย และ อร่อย และอร่อย
ระบบจานบินร่อน กับมารยาทแสนงามแบบกระโชกกระชากของบริกร
กลับเป็นเรื่องสนุกที่มีจานบินข้ามหัวเราไปมา
แล้วภาษาสำเนียงเหมือนทะเลาะกันก็ออกจะเร้าใจฟังสนุก
(เพราะตั้งแต่เล็กๆก็เป็นคนที่ชอบฟังเสียงสำเนียงภาษาต่างๆ แม้ไม่เข้าใจ แต่ช่างสนุกอะไรก็ไม่รู้
ติดนิสัยไปประเทศไหน สิ่งแรกที่ทำหลังเช็คอิน คือเปิดทีวีดู/ฟังช่องโทรทัศน์ท้องถิ่น)


กลับมาเรื่องกิน ทุกร้านที่ไปก็รับประกันรสชาติเพราะความรักของอร่อยของทั้งตระกูล (ลุงป้าอาพ่อแม่)
จำได้ว่าญาติๆจะมีการถกถึงเรื่องร้านอาหารที่จะไปในแต่ละมื้อ
เจาะสนามด้วยคุณลุงถึง 2 ท่านที่เป็นญาติชาวฮ่องกงพาพุ่งไป
ต่อมาก็เริ่มห่างเหิน ลดความถี่ เขยิบไปเปิดโลกที่ไกลกว่า
ครั้งล่าสุดที่ไปก็ยังก่อนคืนเกาะแก่จีนโน้นแน่ะ
ครั้งนี้จึงเป็นการเยือนเพื่อนเก่าไม่ได้เจอกันนับสิบกว่าปี


สำหรับหลายคน ฮ่องกง=การช้อปปิ้ง
แต่ส่วนตัว ฮ่องกง = การกิน
ดังนั้นภารกิจหลักคือการกินอาหารจีนอร่อยๆ แม้เชฟมากมายได้อพยพไปแคนาดาแบบยกแผงแล้วก็ตาม
(โดยเฉพาะแถวแวนคูเวอร์ อาหารจีนอร่อยสุดๆ)
อาหารจีนที่ฮ่องกงก็ยังอยู่ในระดับเซียน
จึงทุ่มทุนกับการกินทุกมื้อแบบไม่หยุดไม่ยั้ง แม้คุณน้องmaewpilar จะจอดป้ายหยุดไปแล้ว
ส่วนภารกิจแอบแฝง (แต่เป็นภารกิจหลักที่พ่อสั่ง) จะมาเล่าสู่กันฟังต่อไป
กับ BODW (Business Of Design Week)


ฮ่องกงวันนี้ มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป มีหลายที่น่าชื่นชม แต่ก็มีบางอย่างสูญหายไปในความรู้สึก
ถนนหนทาง สถานที่หลักๆยังคงไม่ต่างจากในแฟ้มความจำวัยเด็ก
ชื่นชมในระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกสบายแสนง่ายสุดแสน ตั้งแต่สนามบินเข้าตัวเมือง
ผ่านขบวนการตรวจคนเข้าเมืองปุ๊ป ขบวนรถไฟ airport express ก็เปิดประตูรออยู่แล้ว
เพียงขยับเท้าก้าวขึ้นไปเท่านั้น เดี๋ยวเดียวก็ถึงจุดหมายไม่ว่าจะเป็นฝั่งเกาลูนหรือฮ่องกง
ระบบรถไฟใต้ดินก็ง่ายแสนง่าย
การทำมาค้าคล่องคงอยู่ในระดับสูง ระดับความเชื่อมั่นของคนฮ่องกงชั่วโมงนี้ดีมาก จนน่าอิจฉาทีเดียว
สิ่งที่สูญหาย เห็นจะเป็นมนต์เสน่ห์ที่มลายไปกับความแปรเปลี่ยนในเศรษฐกิจสังคมและการตลาด
ผู้คนเป็นมิตรมากขึ้น บริกรก็ใจดี ซึ่งที่จริงก็ดี แต่เสน่ห์แห่งความกระโชกโฮกฮากเจือจางไปมาก
ส่วนระดับสุนทรียศิลปที่แทรกอยู่ในวิถีชีวิต ดูเหมือนจะขยายฐานออกทางแนวขวางมากกว่าแนวตั้ง
(ไม่นับบูติดแบรนด์เนมพวกวิตตอง คาร์เทียร์ ดิออร์ทั้งหลาย)
ดูเหมือนส่วนยอดจะกระจุกตัวหดลดขนาดลงมาก โดยขึ้นไปลอยเล็กจิ๋วอยู่ข้างบน แต่ยังอยู่ในระดับสูงมาก
ส่วนกลางต่อจากยอดคล้ายจะหายไป กลับมีแต่ฐานกว้างมากอยู่แผ่ไพศาล
อาจเพราะกลุ่มลูกค้าขาใหญ่ของฮ่องกงวันนี้กลายเป็นคนจีนจากแผ่นดินใหญ่แทน
กระแสลมเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยน

Comments

  1. อิจฉาจังครับ นึกถึงเกี๊ยวกุ้งที่นั่นแล้ว...
    ไม่ได้กินติ่มซำมาเป็นปีแล้วน่ะ แพง :(

    ReplyDelete
  2. จริงด้วย แถมขนมจีบส่วนใหญ่ก็ถูกแปลงเป็นแบบญี่ปุ่น ไม่อร่อยเลย
    แต่ที่ชินจุกุ มี 東京大飯店ร้านติ่มซำเก่าแก่เป็นร้านขนาดใหญ่ เข้าไปแล้วเหมือนอยู่ฮ่องกงเลย(ตอนนี้รู้สึกว่าจะปิดซ่อมใหญ่อยู่)

    ReplyDelete
  3. ขนมจีบสไตล์ญี่ปุ่นเป็นยังไงหรอคับ ยังไม่เคยทานเลย แต่ที่รู้แน่ๆ คือ แพงสไตล์ญี่ปุ่น

    ReplyDelete
  4. ไส้ขนมจีบจะเป็นหมูผสมหัวหอมใหญ่
    ที่สำคัญหมูจะบดเละแทบเป็นแป้งทีเดียวค่ะ

    ReplyDelete
  5. ประทับใจฮ่องกงค่ะ
    จริงๆ ไปแค่ครั้งเดียว แต่ก็อยากไปอีก
    สำหรับฉันแล้ว ฮ่องกง = การกิน + ช็อปปิ้งค่ะ ^^

    ReplyDelete

Post a Comment